ประราชกิจจานุเบกษา ประกาศ “พระราชกำหนด แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2564” ณ วันที่ 9 เม.ย. 64 โดยมีใจความสำคัญคือ

หากไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นนิติกรรมให้ใช้อัตรา 3% ปี โดยอาจปรับเปลี่ยนให้ลดลงหรือเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ของประเทศได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยปกติให้กระทรวงการคลังพิจารณาทบทวนทุก 3 ปี ให้ใกล้เคียงกับอัตราเฉลี่ยระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์

นอกจากนี้ยังมีการแก้ไข มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 224 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา 224 หนี้เงินนั้น ให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดในอัตราที่กำหนดตามมาตรา 7 บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี ถ้าเจ้าหนี้อาจจะเรียกดอกเบี้ยได้สูงกว่านั้นโดยอาศัยเหตุอย่างอื่น อันชอบด้วยกฎหมาย ก็ให้คงส่งดอกเบี้ยต่อไปตามนั้น ห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัด การพิสูจน์ค่าเสียหายอย่างอื่นนอกจากนั้น ให้พิสูจน์ได้”

มาตรา 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 2241 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

“มาตรา 228/1 ถ้าลูกหนี้มีหน้าที่ผ่อนชำระหนี้เงินเป็นงวด และลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ ในงวดใด เจ้าหนี้อาจเรียกดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดได้เฉพาะจากต้นเงินของงวดที่ลูกหนี้ผิดนัดนั้น ข้อตกลงใดขัดกับความในวรรคหนึ่ง ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ”

มาตรา 6 บทบัญญัติตามมาตรา 7 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชกำหนดนี้ ให้ใช้แก่การคิดดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดเวลาชำระตั้งแต่วันที่พระราชกำหนดนี้ ใช้บังคับ แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงการคิดดอกเบี้ยในระหว่างช่วงเวลาก่อนที่พระราชกำหนดนี้ใช้บังคับ

พรก.แก้ไขดอกเบี้ยผิดนัด http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/A/026/T_0001.PDF

 

Search here...

บริษัทฯมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงพร้อมการให้บริการที่ดีเลิศ การควบคุมคุณภาพในการบริหารงาน ซึ่งจะเน้นย้ำถึงคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับการบริหารงานด้านการเร่งรัดหนี้สิน ตลอดจนการวางแผนงานพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่างๆ เพื่อให้ผู้ว่าจ้างมีความมั่นใจในความพร้อมต่อการขยายงานและรองรับงานเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กรของท่านในโอกาสข้างหน้าต่อไป

ติดต่อเรา